เปิดตัวมาได้สักพักใหญ่แล้ว สำหรับ Nissan Note ใหม่ คอมแพ็คแฮตช์แบค ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับแบบเดินทางสบายๆ ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-อัมพวา ระยะทางไป-กลับ รวมกว่า 200 กม. ในแบบขับท่องเที่ยววันเดียวไป-กลับ
สำหรับ รูปโฉมของ Nissan Note หน้าตาสะสวยตามสมควร ตั้งแต่ กระจังหน้าแบบ V-Motion ช่องกันชนด้านล่างแบบโครเมียม และโคมไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ ปรับสูง-ต่ำได้ พร้อม LED Signature Light มาพร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า ด้านหลัง ไฟท้าย LED แบบ Signature รูปทรงบูมเมอแรง พร้อมไฟเบรก LED มือจับประตู กระจกข้างสีเดียวกับตัวรถ สามารถพับและปรับด้วยไฟฟ้า และยังติดตั้งไฟเลี้ยวบนฝาครอบกระจกมองข้างสไตล์ปีกนก ส่วนด้านหลังติดตั้งสปอยเลอร์ ช่วยเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นตัวรถไซส์กะทัดรัดยาว 4,105มม. กว้าง 1,695มม. และสูง 1,535มม. ประตูตอนหลังเปิดได้กว้างถึง85 องศา สะดวกต่อการขึ้นลงและยกของเข้าออกห้องโดยสาร
ขณะที่ห้องโดยสารกว้าง เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า ขณะที่ เบาะหลังออกแบบให้สูงกว่าเบาะหน้าเล็กน้อยเพื่อทัศนวิสัยที่ดี และปรับพับได้แบบ 60/40 ภายในเน้นโทนสีเข้ม ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน คอนโซลกลางสีเปียโน แบล็ค สวยงาม พวงมาลัยทรงสปอร์ตD-Shape จับถนัดมือดีมาก พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่นเพื่อควบคุมระบบเครื่องเสียงและเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ มาตรวัดเป็นแบบเรืองแสงมัลติ อินโฟเมชัน ดิสเพลย์ (MID) แสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆได้ครบถ้วน
Nissan Note อุดมไปด้วยระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบ Intelligent Around View Monitor (AVM) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง จะแสดงผลที่กระจกมองหลัง มีปุ่มเปิดปิดการใช้งานที่บริเวณตัวกระจก ระบบ Moving Object Detection (MOD) ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวรอบคัน ระบบ Intelligent Forward Collision Warning (FCW) หรือระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า ซึ่งเตือนสัญญาณเสียง และสัญลักษณ์ที่หน้าปัด ระบบ Intelligent Emergency Braking ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบช่วยเตือนก่อนการชน โดยวิเคราะห์ระยะห่าง และความเร็วด้วยกล้องด้านหน้า แล้วช่วยชะลอความเร็วและหยุดรถอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง Lane Departure Warning – (LDW) ซึ่งจะเตือนเมื่อรถออกนอกเลน หากพบว่าล้อเหยียบเส้นแบ่งเลนโดยไม่ตั้งใจ หรือ ผู้ขับไม่เปิดไฟเลี้ยว ระบบก็จะเตือนให้ผู้ขับได้รู้ตัว ซึ่งระบบนี้จะทำงานที่ความเร็วมากกว่า 70 กม./ชม. ขึ้นไป
สำหรับการเดินทางกรุงเทพฯ-อัมพวา ออกเดินทาง แบบสบายๆ รถ 1 คันต่อ 2 ท่าน จากย่านสาทร ที่จะอาศัยเครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี 3 สูบ แถวเรียง DOHC 12 วาล์ว CVTC (Continuously Variable-valve Timing Control) หัวฉีดอิเลคทรอนิคมัลติพอยท์ (ECCS) 32บิท ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 106นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ และยังมีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อรถหยุดนิ่ง Idling Stop ที่สามารถเปิด-ปิด ระบบการทำงานได้ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและทันใจ ตอบสนองอัตราเร่งแซงได้ดีขึ้นกว่าเดิม
การขับในเมืองรถให้ความคล่องตัวสูง เมื่อทางโล่งเร่งความเร็วก็มาไวระบบเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT ที่ได้เพิ่ม D-Step Logic ทำงานได้การเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลไร้รอยต่อ ประหยัดเชื้อเพลิง การใช้ความเร็วคงที่นานๆก็สามารถเห็นตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองถึง17-18 กิโลเมตร/ลิตร การขับขี่นอกเมือง ได้ทดลองใช้งานระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning – LDW) ซึ่งจะเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทางทำงานตลอดเวลา โดยระบบนี้จะทำงานที่ความเร็วมากกว่า 70 กม./ชม. ขึ้นไป และอีกระบบที่ได้ทดลองก็คือ ระบบ Intelligent Forward Collision Warning (FCW) หรือระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า ซึ่งเตือนสัญญาณเสียง และสัญลักษณ์ที่หน้าปัด เมื่อขับขี่เข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป ซึ่งปัจจุบันเป็นระบบความปลอดภัยที่มีในรถราคาแพง
Nissan Noteนั่งได้สบายๆ 4 คน หรือจะนั่ง 5 คน ก็ได้ แต่อาจจะเบียดกันไปสักนิด ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระถือว่าสอบผ่าน เบาะนั่งด้วยฟองน้ำที่แข็งนั่งนานปวดก้นได้เหมือนกัน จุดเด่นอีกสิ่งคือช่วงล่างซึ่งด้านหน้าเป็นแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง ทอร์ชัน บีม พร้อมเหล็ํกกันโคลง ที่มีการทรงตัวที่นิ่งทั้งความเร็วสูง และเส้นทางขรุขระ การเปลี่ยนช่องทางไป-มาก็ทำได้ดี Nissan Note มี 2 รุ่นให้เลือกที่แตกต่างกันในเรื่องออพชั่นคือ ราคา 5.69 แสนบาท และ 6.4 แสนบาท นับว่าเป็นรถเก๋งเล็กแต่มีออพชั่นหรูเหมือนรถแพงๆเพียบ
