กลุ่มรถยนต์ที่มาแรงและมียอดขายเติบโตในค่ายรถยนต์หลายๆแบรนด์ เวลานี้คงต้องเป็นตลาดรถอเนกประสงค์ เอสยูวี (SUV) หรือครอสโอเวอร์ ซึ่งกระแสกำลังมาแรงในตลาด โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถกลุ่มนี้ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทย มาจากประสิทธิภาพรถตอบโจทย์การใช้งาน ประกอบกับราคารถในกลุ่มนี้ผู้บริโภคมีกำลังที่พอจะเอื้อมถึง และที่สำคัญรถยนต์กลุ่มเอสยูวี มีการแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ และรุ่นปรับโฉมสู่ตลาดจำนวนมาก ประกอบกับขณะนี้หลายค่ายรถได้มีไทม์ไลน์ของรถSUV ค่อนข้างชัดเจนในตัวโปรดักต์รุ่นใหม่ แน่นอนว่าครึ่งปีหลังของปีนี้ดุเดือดแน่ๆ ปีนี้ตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวี หรือครอสโอเวอร์คาดว่ามีการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น เนื่องจากขณะนี้ ถือเป็นเซ็กเมนต์ที่มีการเติบโตสวนกระแสตลาด โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถกลุ่มนี้ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทย มาจากการตอบรับความต้องการการใช้งาน และฐานลูกค้าไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจมากนักดังจะเห็นจากการที่หลายค่ายนำรถรุ่นใหม่มาเปิดตัว นับจากนี้
เริ่มตั้งแต่ค่าย ฮอนด้า ที่พร้อมจะลุยอเนกประสงค์เอสยูวีในรุ่น HR-V ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่เพิ่มความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้น เสริมด้วยรุ่น RS และสีใหม่ สีแดงแพสชั่น (มุก) มาพร้อมออพชั่นอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่อันล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) และระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (City Brake Active System) เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น E ราคา 949,000 บาท รุ่น EL ราคา 1,059,000 บาท และรุ่น RS ราคา 1,119,000 บาท โดยฮอนด้าพร้อมจะส่ง ฮอนด้า เอชอาร์- วี ใหม่ ลงโชว์รูมตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมเป็นต้นไป
ขณะที่ไม่นานจากนี้ “มาสด้า” วันที่ 20 กรกฎาคมนี้จะส่ง มาสด้า CX-3 โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ ที่ปรับปรุงดีไซน์เน้นความโฉบเฉี่ยวปราดเปรียว ห้องโดยสารเน้นความหรูหรามากขึ้น มาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัย นอกจากนี้รถในกลุ่มSUV จาก “มาสด้า” ยังอีก 1 รุ่น ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้คือ มาสด้า CX-8 โฉมใหม่อีกหนึ่งรุ่น
อย่างไรก็ตามตลาดรถอเนกประสงค์จะดุเดือดมากขึ้น เมื่อค่าย นิสสัน จะเริ่มทำตลาดในกลุ่มรถอเนกประสงค์ที่พัฒนามาจากปิกอัพ นาวาร่า นั่นคือ นิสสัน เทอร์รา ใหม่ เป็น รถยนต์เอนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง สะดวกสบายด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง เหมาะกับการขับขี่บนทางแบบออฟโรด มาพร้อมระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบไฟว์-ลิงค์ คอยล์สปริง (five-link coil spring rear suspension system) และเพลาหลังที่มั่นคงแข็งแรง รถรุ่นนี้ในฟิลิปปินส์ใช้ เครื่องยนต์ดีเซล YD25 มีสมรรถนะสูงสุด 190 แรงม้าและแรงบิดขนาด 450 นิวตันเมตร ยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำหน้าเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งกว่า และมั่นใจยิ่งขึ้นด้วย ”นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้” ประกอบด้วยระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning) ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) และกล้องอัจฉริยะมองรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหว (Moving Object Detection) พร้อมกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Smart Rear View Mirror) ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นทัศนวิสัยด้านหลัง จากกล้องที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังของรถ ยังรวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัย ยังมาพร้อมการควบคุมที่ดียิ่งขึ้นด้วยระบบ 4WD-DIFF หรือ ดิฟเฟอเรนเชียล-ล็อก 4 ล้อ และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist) รวมถึง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control) ที่ช่วยควบคุมความเร็วเมื่อขับขี่ลงในเส้นทางที่ลาดชัน ขณะที่ออพชั่น และเครื่องยนต์ ในเทอร์ร่า ที่จะขายในบ้านเราอาจจะแตกต่างจากข้างต้น ปลายปีนี้ทั้งหมดจะกระจ่าง
