ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเอตร์โชว์ ครั้งที่ 44 ค่าย เกรท วอลล์ มอเตอร์(Great Wall Motor) หรือ GWM ได้ใช้เวทีนี้เปิดโฉม All New GWM TANK 500 Hybrid SUV พร้อมกับเปิดให้มีการจองสิทธิ์เพื่อซื้อ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการภายใต้แพ็กเกจ Value Plus ซึ่งลูกค้าสามารถจองสิทธิ์ซื้อได้ในราคาเพียง 5,000 บาท จากมูลค่าสิทธิประโยชน์รวมสูงกว่า 60,000 บาท โดยมีรายละเอียดของแพ็กเกจดังต่อไปนี้
• ส่วนลดเงินสดมูลค่า 50,000 บาทในการซื้อรถ
• ฟรี แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถเป็นระยะเวลา 3 ปี
• และป้ายโลหะ GWM TANK 500 สุดเอ็กซ์คลูซีฟ (จำกัดเพียง 500 ท่านเท่านั้น)
ผู้ที่สนใจสามารถจองสิทธิ์เพื่อซื้อแพ็กเกจ Value Plus ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เวลา 18.00 น. โดยลูกค้าจะต้องชำระเงินมัดจำจำนวน 10,000 บาท ระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เวลา 20.00 น. ถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2566 เวลา 23.59 น. และรับรถภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เพื่อรับสิทธิ์ดังกล่าว
สำหรับ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV เป็นรถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียม สร้างบนแพลตฟอร์ม TANK แพลตฟอร์มโมดูล่าร์ออฟโรดอัจฉริยะ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับระบบเครื่องยนต์ได้หลายประเภทและหลากหลายขนาด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 350 แรงม้า ให้แรงบิดรวมสูงสุด 616 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ 9HAT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด พร้อมโหมดการขับขี่ 11 รูปแบบ มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น ULTRA และรุ่น PRO และมีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ขาว ดำ เทา แดง และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) จับคู่กับสีภายในสีดำและทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA และสีเทาคริสตัล) ตัวรถมีขนาดกว้างขวางและใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน โดยมิติตัวรถอยู่ที่ 1,934 x 5,078 x 1,905 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,850 มม. การออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ดับเบิ้ล ครอส อาร์ม และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง เพื่อความต้องการของทุกคนในครอบครัว
All New GWM TANK 500 Hybrid SUV สร้างสรรค์มาด้วยปรัชญาการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ตามลักษณะ DNA ของแบรนด์ TANK ที่มีความบึกบึน แกร่ง แต่เปี่ยมไปด้วยความหรูหรา สง่างาม มีไฟหน้าแบบ Intelligent LED พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow me home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED ไฟหลัง LED แบบแนวตั้งสะดุดตา และกล้องด้านหลังแบบซ่อนในยางอะไหล่ นอกจากนี้ GWM TANK 500 ยังมาพร้อมบันไดข้างระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชัน เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเปิด-ปิดประตู และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/50 R20 มอบภาพลักษณ์หรูหราและการขับขี่ที่ไว้ใจได้ในทุกเส้นทาง
ด้านการออกแบบภายใน มีความหรูหรา ทันสมัย แต่ยังคงความเรียบง่าย ด้วยจอแสดงผลการขับขี่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว และหน้าจอมัลติมีเดีย 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบ multi-steering wheel และแพดเดิล ชิฟ พร้อมพวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง นอกจากนี้ GWM TANK 500 ยังมาพร้อมฟังก์ชันและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มสุนทรียภาพและความสะดวกสบายในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นลำโพง Infinity 12 ตัวพร้อม amplifier เบาะหนัง Nappa คุณภาพสูง เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Memory Seat และ Welcome Seat เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบนวด 8 จุดสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 3 พร้อมพนักพิงปรับไฟฟ้า ม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารแถวสอง พร้อมระบบการจดจำค่าการเซ็ตกระจกด้านข้าง แผงควบคุมที่คอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชันควบคุมการขับขี่แบบออฟโรดช่วยให้การปรับเปลี่ยนการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นไปอย่างง่ายดาย
ด้านสมรรถนะการขับขี่ออฟโรด All New GWM TANK 500 Hybrid SUV มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ได้แก่
• ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของยานพาหนะเมื่อเผชิญกับทางลาดชัน โคลน ทะเลทราย และภูมิประเทศที่ซับซ้อนอื่น ๆ ด้วยกลไกการถ่ายโอนกำลัง ทำงานร่วมกันกับกลไกล็อกของกล่องถ่ายโอน สร้างระบบขับเคลื่อนออฟโรดแบบ 3 locks เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม
• ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) หลังจากเปิดฟังก์ชัน เมื่อระบบตรวจพบความตั้งใจในการบังคับเลี้ยวมากเกินไป ระบบจะส่งแรงเบรกไปที่ล้อหลังด้านในเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว เพื่อช่วยให้รถสามารถเลี้ยวในวงแคบได้
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Offroad Cruise Control) หลังจากเปิดฟังก์ชัน ระบบจะควบคุมเครื่องยนต์และระบบเบรกโดยอัตโนมัติเพื่อให้รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำและความเร็วสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่เสียสมาธิและเพิ่มความปลอดภัยจากการควบคุมรถบนสภาพถนนที่ซับซ้อน
• ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) หลังจากเปิดฟังก์ชัน ระบบจะทำการประเมินความลึกของระดับน้ำและแสดงผลของระดับน้ำประกอบภาพรถบนหน้าจอกลาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เมื่อขับผ่านสภาพถนนที่มีน้ำท่วมขัง
• ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent System) หรือระบบจะจดจำข้อมูลของพื้นที่รอบเส้นทางการขับขี่ของกล้องรอบตัวรถและสร้างภาพเสมือนแบบพาโนรามาจากมุมมองด้านบนของตัวรถในลักษณะแบบโปร่งใสเห็นพื้นผิวถนนด้านล่าง และแสดงภาพใต้ท้องรถและด้านหน้าของรถ เพิ่มความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
• All New GWM TANK 500 Hybrid SUV สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 11 รูปแบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดสภาพถนนลื่น และ offroad ได้แก่ โหมดโคลน โหมดทราย โหมดหิน โหมด4L โหมด4H โหมดอัตโนมัติ และโหมดเชี่ยวชาญ
ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชม All New GWM TANK 500 Hybrid SUV และทัพยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต สามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองขับรถยนต์หลากหลายรุ่นได้ที่ บูธ A4 ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 เวลา 12.00 – 22.00 น. (วันธรรมดา) และ 11.00 – 22.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ)