GPX เปิดตัว รถมอเตอร์ไซค์ใหม่ล่าสุดถึง 3 รุ่น ในรหัส MAD 300, Gentleman Racer 200 และ New Demon 150 GR ภายในงาน Motor Expo 2018 พร้อมส่งออกต่างประเทศ
นายไชยยศ ร่วมใจพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีพี มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “GPX ประสบความสำเร็จอย่างมากในปีนี้ ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น MAD 300, Gentleman Racer 200 และNew Demon 150 GR ภายในงาน Motor Expo 2018 โดย รุ่น New Demon 150 GR ส่วนรุ่น Gentleman Racer 200 โมเดลนี้ถือว่า เป็นการพัฒนาไปในขั้นสูงสุดของความเป็น Café Racer ในรูปแบบโม่ง ออกแบบตัวรถมาในอารมณ์ของคาเฟ่เรเซอร์อย่างแท้จริง รุ่น MAD 300 ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ตลาดกลุ่มผู้เล่นที่ต้องการกำลังของเครื่องยนต์ที่ซีซีอยู่ในระดับสูงขึ้น และราคาที่เอื้อมถึงได้
สำหรับ MAD 300 มอเตอร์ไซค์สไตล์ Sport Naked Custom รถรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย GPX มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทคโนโลยีหัวฉีด EFI ในขุมกำลังพิกัด 300 ซีซี 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ เกียร์ 6 สปีด ดิสก์เบรกหน้าแบบคู่ โช๊คหน้าหัวกลับ Up Side Down นอกจากนี้ในเรื่องของดีไซน์ ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับคนไทย มี 4 เฉดสีพิเศษ ได้แก่ สีเงิน (Silver Matt), สีแดง (Red Gloss), สีดำ (Black Gloss) และสีเหลือง (Yellow Gloss) สนนราคาพิเศษ เพียง 89,800 บาท ส่วนรุ่น Gentleman Racer 200 รถมอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ต คาเฟ่เรเซอร์ เครื่องยนต์พิกัด 200 ซีซี 4 จังหวะ ราคาค่าตัวที่ 72,500 บาท
สำหรับรุ่น New Demon 150 GR รถมอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ตฟูลแฟริ่ง มาพร้อมกับล้อแม็ก 14 นิ้ว กับการปรับโฉมใหม่ในสีสันที่เร้าใจ กับ 3 เฉดสีใหม่ ได้แก่ สีเหลือง สีแดง และสีดำ สนนราคาที่ 64,500 บาทเท่านั้น ภายในงาน Motor Expo 2018 มีการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ GPX ทุกรุ่นที่กำลังทำตลาดอยู่ในขณะนี้ ทั้งสไตล์สปอร์ต และคลาสสิก รวมทั้งสิ้นภายในบูธ 8 รุ่นด้วยกัน โดยจะเปิดรับจองในงาน พร้อมขนโปรโมชั่นสุดพิเศษจัดเต็มส่งท้ายปีมาให้อีกมากมาย
“ GPX ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2561 ประสบความสำเร็จจากยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ในบ้านเรา โดยทำตัวเลขยอดจดทะเบียนอยู่ที่ 27,000 คัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่มากขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา เราก็ได้ยอดขายเพิ่มเติมจากการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งในกัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ฮ่องกง เนปาล และอื่นๆ โดยในปีหน้า หวังว่าจะสามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศในสัดส่วน 25% ของกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุ่งเน้นการพัฒนาศูนย์บริการภายในประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น” คุณ ไชยยศ กล่าวปิดท้าย
